ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ลำบากวันนี้สบายวันหน้า VS ขี้เกียจวันนี้สบายวันนี้

 

         ความเป็นมนุษย์ มักจะมีความ ขี้เกียจ เป็นเรื่อง ธรรมดา เพราะสมอง มักจะเลือกทาง หรือ วิธีที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด ซึ่งก็อาจจะเป็นผลดี หากใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

        แต่ถ้าเรายอมทำตาม ความสบายที่สมองเลือกให้ตลอด โดยที่ไม่ได้ไต่ตรองดูผลที่จะตามมาให้ดีเสียก่อน ก็อาจเป็นไปได้ว่า หนทางความสบายตรงหน้า เมื่อถึงปลายทาง อาจเป็นความลำบากที่เคย หลีกเลี่ยงมาก็เป็นได้ เหมือนดั่งคำพูด ที่ว่า "ลำบากวันนี้สบายวันหน้า" แต่สมอง อาจจะบอกเราว่า "ขี้เกียจวันนี้สบายวันนี้" 

        หากเราใช้ความคิด ที่ไม่ใช่อารมณ์ คิดถึงผลที่จะตามมาจากความขี้เกียจนั้น ให้ดีเสียก่อน ความสบายตรงหน้าเมื่ออาจจะนำไปสู่ความลำบากในภายหลัง  เราจึงต้อง ใช้เหตุผล เหนืออารมณ์ในการตัดสินใจที่จะทำหรือไม่ทำ เพราะไม่ว่าเราจะเลือก ทางที่ ลำบาก (ลงมือทำ) หรือ ทางที่สบาย (ขี้เกียจในสิ่งที่ควรทำ)
สุดท้ายแล้วยังไง เราจะต้องพบเจอ ทั้ง ความสบาย และ ความลำบาก อยู่ดี 

        แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการเลือกนั้นอาจแต่ต่างกัน หากเปรียบเทียบความ ลำบาก คือ ล้มเหลว สบาย คือ สำเร็จ ก็จะเกิดคำพูดใหม่ ที่ว่า "ความล้มเหลวในวันนี้คือความสำเร็จในวันข้างหน้า   คำพูดนี้มีเหตุผลให้มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน เนื่องจากความล้มเหลวเกิดจากการทดลองทำ ลองผิดลองถูก ปรับปรุง พัฒนา แก้ไข จึงมักจะล้มเหลวในช่วงเริ่มเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราไม่ยอมแพ้ เมื่อผ่านล้มเหลวมาหลาย ๆ ครั้ง จะเกิดการเรียนรู้ว่า อะไรที่ทำแล้วไม่ใช่ สุดท้ายแล้วทางที่ใช่ และ ความสำเร็จ ก็จะตามมา

   

       

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สิ่งที่ได้เลือกแล้วดีที่สุดเสมอ

สิ่งที่เลือกแล้วดีที่สุดเสมอ อย่าเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา เพราะนั่นคือ สิ่งที่ดีที่สุด ณ ช่วงเวลานั้นแล้ว

ความโง่เขลาของเราเอง

                       เคยมั้ยครับ กับบางเรื่องที่เกิดจากความไม่รู้ของเราเอง หรือ เป็นการกระทำที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนักและถ้าทำไม่ดีจะส่งผลเสียต่อตัวเอง  อาจสร้างปัญหาอื่น ๆ ตามมา  เป็นความโง่เขลาที่เกิดจากการไม่รอบขอบ หรือ ขาดความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ทำ จะเลิกก็ไม่ได้ ย้อนกลับไปแก้ไขก็ไม่ได้ ต้องก้มหน้ารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น กับการตัดสินใจที่ผิด โดยไม่อาจโทษใครได้ หากจะหาคนรับผิดชอบเรื่องนี้ก็คงเป็นตัวเราเองนี้แหละ          จากนี้ต้องจำไว้เป็นบทเรียนคราวหน้าจะได้ไม่โง่อีก ครั้งต่อไปต้องดีกว่านี้ ละเอียดกว่านี้ รอบคอบกว่านี้ หากสิ่งที่ทำแล้วผิดพลาด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ เพราะได้ผ่านการคิดมาอย่างดีแล้ว หากผิดพลาดจะเสียใจน้อยกว่า และ ยอมรับได้มากว่า การไม่ได้วางแผนอะไรเลย

ข้อมูล + ลงมือทำ = ความรู้

                     ทุกวันนี้เป็น ข้อมูล เป็นสิ่งที่หาและเข้าถึงได้ง่าย การเริ่มทำอะไรสักอย่าง อาจไม่ต้องเริ่มจาก ศูนย์เสมอไป เทคนิคหลาย ๆ อย่าง หรือ ความรู้ในสิ่งต่าง ๆ มีการสรุปไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ การเรียนออนไลน์ หรือ อ่านจากบทความต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ข้อมูลอาจมีมากเกินไปด้วยซ้ำ เราจึงต้องเลือกทางทีง่าย และ เร็วที่สุด เวลาของทุกคนมีจำกัด เราไม่สามารถเรียนรู้ศาสตร์ทุกอย่างได้ เพื่อไม่ให้เสียเวลาในแต่ละวันไปอย่างไร้ค่า จึงต้องโฟกัสในสิ่งที่เราอยากรู้ หรือ ตั้งใจที่จะทุมเทให้กับสิ่งนั้นจริง ๆ            ด้วยความที่โลกอินเตอร์เน็ตมีข้อมูลมากมาย สิ่งที่ตามมาคือ ความถูกต้องของข้อมูล คงจะไม่มีใครที่จะคัดกรองข้อมูลเหล่านั้นว่าเป็น ความจริง หรือ สิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เราเองในฐานะที่เป็น ผู้เสพข้อมูล ต้องใช้สติในการไตร่ตรอง ข้อมูลที่ได้รับเข้ามาในแต่ละวัน บางอย่างเป็นเพียงข้อคิดเห็น และ บางอย่างไม่เป็นความจริงก็ได้           เมื่อมีข้อมูลที่...