หลังจากที่เล่นดนตรีเสร็จผมได้พูดคุยกับเพื่อนซึ่งจะได้มาเล่นดนตรีกันเกือบทุกสัปดาห์ ก่อนกลับก็ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่อง
มันถามผมว่า “มึงชอบอะไรเป็นพิเศษ”ผมไม่ได้ตอบคำถามมัน แต่ในใจก็คิดว่า ไม่รู้เหมือนกัน
และก็ได้คุยถึงเรื่องรถมันบอกว่ามันอยากมีรถ ผมก็ได้แนะนำว่าให้ในเย็น ๆ
มันมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเยอะ รอดูไปก่อน ผมก็บ่นให้มันฟังว่ามีรถแล้วมีแต่หนี้
ค่าใช้จ่าย นั้นนี้เยอะแยะ มันก็โชว์รูปสมุดบัญชีของมัน(เพือนผม)ให้ดู
มันบอกว่าเก็บมานาน เมื่อผมเห็นตัวเลขผมคิดในใจว่า
ดูเหมือนว่าเพื่อนผมมันจะไม่มีอะไรแต่มันก็มีเงินเก็บ ซึ่งพอ ๆ กับราคารถของผม
และผมได้ย้อนมองดูตัวเองพบว่า ผมมีรถ แต่ ไม่มีเงิน และเพื่อนผม มีเงิน แต่ไม่มีรถ
สมมุติว่า ถ้าผมไม่ได้ซื้อรถ
ผมคงจะมีเงินเก็บอยู่พอสมควรแต่ก็ไม่มีรถขับอยู่ดี แต่มันก็จำเป็นอยู่ดีถ้าไม่มีรถจะไปไหนก็ลำบาก
ผมยอมรับเลยว่า กูนับถือมึงเลย ขนาดกูยังเก็บเงินอย่างมึงไม่ได้(ผมคิดในใจว่ามันต้องอดทนมากถึงเก็บเงินได้ขนาดนี้)
มันก็บอกว่าทุกคนต้อง สู้นะแหละ ถ้าเพื่อนผมมันซื้อรถเงินมันก็หมดเหมือนกัน สรุปคือ
สถานะการณ์ตอนนี้ มีรถแต่ไม่มีเงิน แต่ถ้าจะให้ดีผมคิดว่า เราควรจะมีความสุขกับเวลา
และ สิ่งที่เราทำ ในตอนนี้จะดีที่สุด ถึงแม้จะ มีรถแต่ไม่มีเงิน หรือ
มีเงินแต่ไม่มีรถ ชีวิตค่อย ๆ สร้างมันไป
สิ่งที่เลือกแล้วดีที่สุดเสมอ อย่าเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา เพราะนั่นคือ สิ่งที่ดีที่สุด ณ ช่วงเวลานั้นแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น